มงคลสูตรคำฉันท์ เป็นพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ใน ปี พ.ศ. ๒๔๖๖ คำ "มงคล" หมายความถึงเหตุทั้งหลายอันจะทำให้บรรลุถึงความเจริญแห่งสมบัติทั้งปวงหรืออาจแปลให้ง่ายว่า เหตุแห่งความเจริญก้าวหน้า หรือทางก้าวหน้านั่นเอง
มงคลสูตร เป็นพระสูตรในพระพุทธศาสนา มีที่มาจากพระไตรปิฏก พุทธศาสนิกชนไทยรู้จักกันดีในเวลาที่พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ในงานมงคลทั่วไป จะต้องสวดบทมงคลสูตรเสมือนโดยปกติเมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์มาถึงบทมงคลสูตร องค์ที่เป็นประธานจะเริ่มหยดเทียนลงในขันน้ำพระพุทธมนต์สำหรับใช้พรม เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของสิริมงคลตามคตินิยม ทั้งนี้เพราะเนื้อความในมงคลสูตรกล่าวถึงมงคล ๓๘ ประการ
รูปแบบคำประพันธ์ แต่งด้วยอินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ และกาพย์ฉบัง ๑๖
เนื้อเรื่อง
มนุษย์และเทวดา ได้พยายามค้นหาคำตอบว่าอะไรคือมงคลเป็นเวลานานถึง ๑๒ ปีก็ยังไม่ทราบว่ามงคลคืออะไร จนมีเทพองค์หนึ่งเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ เชตวันมหาวิหาร เพื่อทูลถามเรื่องนี้
พระพุทธเจ้าจึงทรงแสดงมงคลสูตร ๓๘ ประการด้วยคาถาบาลี ๑๐ คาถา และคาถาสรุป ๑ คาถาชี้ให้เห็นประโยชน์ของการปฏิบัติตามมงคล ๓๘ ประการ
มงคล ๓๘ ประการ มีตามลำดับ ดังนี้
๑. ไม่คบคนพาล
๒. คบบัณฑิต
๓. บูชาผู้ที่ควรบูชา๔. อยู่ในประเทศอันสมควร
๕. เคยทำบุญไว้กาลก่อน
๖. ตั้งตนไว้ชอบ๗. สดับตรับฟังมาก
๘. มีศิลปะ
๙. มีวินัย๑๐.มีวาจาเป็นสุภาษิต
๑๑.บำรุงบิดามารดา
๑๒.สงเคราะห์บุตร๑๓.สงเคราะห์ภรรยา
๑๔.การงานไม่คั่งค้างอากูล
๑๕.ให้ทาน๑๖.ประพฤติธรรม
๑๗.สงเคราะห์ญาติ
๑๘.ประกอบการงานที่ไม่มีโทษ๑๙.เว้นจากบาป
๒๐.สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
๒๑.ไม่ประมาทในธรรม๒๒.เคารพ
๒๓.การเจียมตัว
๒๔.ยินดีด้วยของตน (สันโดษ)๒๕.รู้คุณท่าน
๒๖.ฟังธรรมตามกาล
๒๗.อดทน๒๘.ว่าง่าย
๒๙.เห็นสมณะ
๓๐.สนทนาธรรมตามกาล๓๑.บำเพ็ญตบะ
๓๒.ประพฤติพรหมจรรย์
๓๓.เห็นอริยสัจ๓๔.ทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
๓๕.จิตไม่หวั่นไหว
๓๖.จิตไม่เศร้าโศก๓๗.จิตปราศจากธุลี
๓๘.จิตเกษม
เนื้อเรื่อง
มนุษย์และเทวดา ได้พยายามค้นหาคำตอบว่าอะไรคือมงคลเป็นเวลานานถึง ๑๒ ปีก็ยังไม่ทราบว่ามงคลคืออะไร จนมีเทพองค์หนึ่งเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ เชตวันมหาวิหาร เพื่อทูลถามเรื่องนี้
พระพุทธเจ้าจึงทรงแสดงมงคลสูตร ๓๘ ประการด้วยคาถาบาลี ๑๐ คาถา และคาถาสรุป ๑ คาถาชี้ให้เห็นประโยชน์ของการปฏิบัติตามมงคล ๓๘ ประการ
มงคล ๓๘ ประการ มีตามลำดับ ดังนี้
๑. ไม่คบคนพาล
๒. คบบัณฑิต
๓. บูชาผู้ที่ควรบูชา๔. อยู่ในประเทศอันสมควร
๕. เคยทำบุญไว้กาลก่อน
๖. ตั้งตนไว้ชอบ๗. สดับตรับฟังมาก
๘. มีศิลปะ
๙. มีวินัย๑๐.มีวาจาเป็นสุภาษิต
๑๑.บำรุงบิดามารดา
๑๒.สงเคราะห์บุตร๑๓.สงเคราะห์ภรรยา
๑๔.การงานไม่คั่งค้างอากูล
๑๕.ให้ทาน๑๖.ประพฤติธรรม
๑๗.สงเคราะห์ญาติ
๑๘.ประกอบการงานที่ไม่มีโทษ๑๙.เว้นจากบาป
๒๐.สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
๒๑.ไม่ประมาทในธรรม๒๒.เคารพ
๒๓.การเจียมตัว
๒๔.ยินดีด้วยของตน (สันโดษ)๒๕.รู้คุณท่าน
๒๖.ฟังธรรมตามกาล
๒๗.อดทน๒๘.ว่าง่าย
๒๙.เห็นสมณะ
๓๐.สนทนาธรรมตามกาล๓๑.บำเพ็ญตบะ
๓๒.ประพฤติพรหมจรรย์
๓๓.เห็นอริยสัจ๓๔.ทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
๓๕.จิตไม่หวั่นไหว
๓๖.จิตไม่เศร้าโศก๓๗.จิตปราศจากธุลี
๓๘.จิตเกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น